Abstract: ผักหรือพืชที่มีอายุวงจรชีวิตสั้น หรือพืชล้มลุก จะโตไวกว่าเมื่อใช้มูลไส้เดือนผสมดินปลูก 10-20 % โดยไม่ต้องใส่ปุ๋ยชนิดอื่นอีกเลย และสามารถใช้มูลไส้เดือนอย่างง่าย ที่เลี้ยงด้วยมูลวัวอย่างเดียว เนื่องจากมีไนโตรเจนเป็นธาตุหลัก ส่วนธาตุรองอื่นๆ จุลินทรีย์ในมูลไส้เดือนสามารถสร้างขึ้นได้ครบ และเพียงพอต่อความต้องการ       (แต่หากเป็นไม้ดอกไม้ประดับ  หรือผลไม้ ต้องปรับปรุงให้มูลไส้เดือนมี ฟอสฟอรัสสูงด้วย )


ตั้งแต่ปลายปี 2557 เป็นต้นมาหลังจากเริ่มเลี้ยงไส้เดือน ผมพยายามทดสอบการใช้มูลไส้เดือนในการปลูกผัก และผลไม้พื้นบ้านชนิดต่าง ไม่ว่าจะเพื่อกินใบ กินต้น หรือผลไม้ ( ผลไม้ที่มักเข้าใจผิดว่าเป็นผัก เช่น ฟักทองเทศ, อะโวคาโด, แตงกวา, มะเขือยาว, มะกอก, ฟักทอง, ถั่วลันเตา)  

ปรากฏว่า ได้ผลทุกชนิดเมื่อใช้มูลไส้เดือน ผสมดินปลูกเพียง 10-20% และหากเป็นต้นไม้อายุสั้น ก็ใส่เพียงครั้งเดียว (ถ้าดินที่นำมาปลูกไม่ดี ก็อาจจะใส่ซ้ำเพียง 1 กำมือต่อหนึ่งกระถาง หรือ 1 ต้น) ถือว่าคุ้มค่ามากๆ 

และมักจะมองดู และสอบถาม คนที่ผลูกผักผลไม้มาเปรียบเทียบกัน  เช่น มะเขือม่วง ถั่วพู ฟัก ที่ใช้มูลไส้เดือนสามารถเก็บผลผลิตได้ซ้ำๆ หลายครั้งกว่า (ให้ผลผลิตมากกว่า)    จึงพิสูจน์ให้เห็นว่า มันสร้างความสมบูรณ์ให้ดินได้จริงๆ 

รวมทั้งการใช้มูลไส้เดือนผสมกับขุยมะพร้าว เพื่อการเพาะเมล็ดงอกชนิดต่างๆ อย่างได้ผล    ไม่ต้องใช้พีชมอส ที่ราคาแพง เพราะมูลไส้เดือนมีจุลินทรีย์มาก โอกาศที่รากจะเน่านัั้นน้อยมาก 

*แต่หากเป็นผลไม้บางชนิด เมื่อเติบโตในช่วงติดดอก ออกผล  ก็ต้องปรับค่ามูลไส้เดือนให้มีค่า ฟอสฟอรัส สูง เพราะมูลไส้เดือนที่ให้ไส้เดือนกินมูลวัวอย่างเดียว จะมีค่าไนโตรเจนสูงเท่านั้น และหากใส่จำนวนมากและบ่อยในช่วงนั้น  ต้นไม้จะ บ้าใบ บ้าโต ไม่มีดอกหรือดอกร่วง 



ต้องการสนับสนุนบทความ ซื้อไฟล์หนังสือ รากดิน---การเลี้ยงไส้เดือน (ส่งได้ทางไลน์) คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ



 

 

 

 

 

 

 

 

 

No comments